เฟดขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ฉุกเฉิน ( Discount rate ) ที่เฟดใช้คิดกรณีที่ธนาคารพาณิชย์กู้เงินฉุกเฉินจากธนาคารกลางเมื่อพวกเขาขาดเงิน
เฟดแถลงวันพฤหัส(18กพ.)ว่า ตนได้ขึ้นดอกเบี้ย Discount rate 0.25% ไปเป็น 0.75% เพื่อตอบสนองต่อภาวะการตลาดการเงินที่ปรับตัวดีขึ้น
|
|
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ เป็นไปในเชิงสัญญลักษณ์ เพราะปัจจุบันธนาคารต่างๆกู้เงินจากเฟดผ่าน Discount window น้อยมาก
การขึ้นครั้งนี้ ไม่มีผลต่อ Fed fund rate ที่ถูกจับตาอย่างกว้างขวาง เพราะมันเป็นดอกเบี้ยที่ธนาคารใช้กู้ยืมกันเองสำหรับการกู้ยืมข้ามคืน ปัจจุบัน Fed fund rate อยู่ระหว่าง 0 0.25% เนื่องจากตลาดแรงงานยังอ่อนแอ และภาวะเศรษฐกิจยังเปราะบาง
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ ไม่ได้ส่งสัญญานว่าจะเข้มงวดกับภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน และยังไม่มีผลต่อนโยบายการเงินอื่นๆ เฟดแจ้งในใบแถลงข่าว
ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดแถลงว่า นี่ยังไม่ใช่แผนการถอนการกระตุ้นเศรษฐกิจออก ( exit plan )
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐปรับสูงขึ้น 3 วันต่อเนื่อง(ข้อมูล ณ วันที่ 19 กพ.2010) หลังเฟดส่งสัญญานว่า ตลาดการเงินฟื้นจากจุดต่ำสุดแล้ว โดยดัชนีดาวน์โจนส์ปรับขึ้น 84 จุด ดัชนี S&P ปรับขึ้น 7 จุด และแนสเดก ทะยาน 15 จุด
เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยน ทำให้ราคาทองคำร่วงลง 1.4 เหรียญไปปิดที่ 1118.70 เหรียญต่อออนซ์ เพราะนักลงทุนย้ายกลับไปลงทุนในดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 1.73 เหรียญ ไปปิดที่ 79.06 เหรียญต่อบาร์เรล จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้ว การใช้น้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนราคาพันธบัตรปรับลดลง จากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 3.74% เป็น 3.8% จากความหวังที่ว่าเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น การกู้เงินเพื่อการลงทุนและบริโภคจะสูงขึ้น โดยราคาพันธบัตรและอัตราดอกเบี้ยจะวิ่งสวนทางกันเสมอ
หากมองในแง่จิตวิทยาที่มักใช้กราฟทางเทคนิคเข้ามาประเมิน สัญญานทางเทคนิคของกราฟดัชนีดาวโจนส์ได้ทะลุแนวต้านระยะ 3 ปี แล้วสามารถยืนอยู่ได้ และเมื่อมีการปรับฐาน ก็ไม่ร่วงทะลุเส้นแนวต้านที่เปลี่ยนกลับมาเป็นแนวรับ แสดงว่านักลงทุนมีความมั่นใจว่าการฟื้นตัวยังเป็นไปตามคาด
กราฟดัชนีดาวโจนส์ระยะ 3 ปี ที่สามารถทะลุแนวต้านระยะยาวและยืนอยู่ได้
ดังนั้น ตราบใดที่ดัชนีดาวโจนส์ยังยืนอยู่เหนือแนวรับใหม่นี้ได้ แสดงว่ายังวางใจในการลงทุนได้ ขณะที่การลงทุนในตลาดหุ้นของไทยก็ดูปัจจัยทางการเมืองเป็นหลัก เพราะสัญญานทางเศรษฐกิจหลายตัวยืนยันออกมาว่าฟื้นแล้ว
แหล่งข้อมูล Forfune, CNNMoney.com