ธนาคารสหรัฐบอกว่า อัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นไปถึง 10% ในปีนี้ แต่บอกด้วยว่า เศรษฐกิจถดถอยจะสิ้นสุดเร็วๆนี้ พร้อมกับเพิ่มอัตราการเติบโตสำหรับปีหน้า |
|
การคาดการณ์เหล่านี้ มีอยู่ในรายงานการประชุมของเฟด เมื่อวันที่ 24 มิย. ในการประชุม เฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ใกล้ 0% โดยบอกว่า มีสัญญานฟื้นตัวในบางธุรกิจแล้ว รวมทั้งตลาดการเงิน
ตามรายงานการประชุม สมาชิกของเฟดส่วนใหญ่ เห็นว่าการถดถอยจะสิ้นสุดในเวลาไม่นาน
การถดถอยในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2007 ซึ่งนับเป็นการถดถอยที่ยาวนานที่สุดของสหรัฐ นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ผู้กำหนดนโยบายของเฟด ตอนนี้เชื่อว่าอัตราการว่างงานจะขึ้นไปอยู่ระหว่าง 9.8-10% ในปี 2009 ก่อนที่จะค่อยๆลดลงในปีหน้า โดยตัวเลข ณ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อัตราว่างงานได้ขยับไปที่ 9.5%
เฟดยังได้มองโลกในแง่ที่ดีขึ้น โดยบอกว่า GDP ของสหรัฐจะลดลงระหว่าง 1-1.5% ในปีนี้ และคาดว่าในปี 2010 และปี 2011 GDP จะขยายตัวในช่วง 2.1-3.3% และ 3.8-4.6% ตามลำดับ
เฟดคาดการณ์ว่าการเติบโตในครึ่งปีนี้จะเชื่องช้า และปัญหาในตลาดสินเชื่อจะค่อยๆดีขึ้นในปีหน้า
สมาชิกส่วนใหญ่ของเฟด เชื่อว่า มันอาจต้องใช้เวลา 5-6 ปี ในการทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และมีอัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานตามที่เฟดต้องการ
Rich Yamarone ผู้อำนวยการของ Argus Research บอกว่า รายงานของเฟดชี้ให้เห็นว่า เฟดยังคงกังวลเรื่องสถานะเศรษฐกิจและโอกาสในการฟื้นตัว
เขาชี้ว่า ถึงเฟดจะพูดถึงโอกาสในการฟื้นตัว แต่ก็เตือนว่า เศรษฐกิจยังอ่อนแอและอาจต้องพบกับภาวะช็อคหลายเรื่อง อย่างการว่างงานที่เพิ่มขึ้น และโอกาสในการล้มละลายของสถาบันการเงิน อย่าง CIT group ที่กำลังอึมครึมในเวลานี้
ผมไม่คิดว่า เฟดจะขึ้นป้าย ภาระกิจสำเร็จแล้ว ในเร็วๆนี้
นักวิเคราะห์อีกท่าน เห็นด้วยว่า เฟดยังคงกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ เขาบอกว่า เฟดคงต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยต่ำและคงโปรแกรมที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายและปล่อยกู้ไปอีกระยะหนึ่ง
แต่ นาย David Wyss นักเศรษฐศาสตร์จาก S&P บอกว่า มันชัดเจนว่า เฟดลดความกังวลลง เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน
พวกเขาเลื่อนมาอยู่ตำแหน่งทรงตัว เมื่อเทียบกับระดับทิ้งดิ่ง ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก เขากล่าว