ReadyPlanet.com
dot dot
dot
วางแผนการเงิน
dot
bulletทำไมต้องวางแผนการเงิน
dot
วางแผนเกษียณอายุ
dot
bulletวางแผนเกษียณอย่างง่าย
dot
วางแผนภาษีอากร
dot
bulletทำไมต้องวางแผนภาษี
bulletเทคนิควางแผนภาษีส่วนบุคคล
bulletเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี
bulletค่าใช้จ่ายของแต่ละอาชีพ
bulletสิทธิหักลดหย่อนภาษี
bulletวิธีคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา
dot
วางแผนการลงทุน
dot
bulletข้อคิดก่อนลงทุน
bulletการจัดพอร์ตลงทุน
dot
วางแผนการประกัน
dot
bulletหลักพื้นฐานการประกันภัย
bulletประกันชีวิตเท่าไรถึงพอ
dot
Newsletter

dot




ช่วยใช้เงินหน่อย

        ตามปกติ    มักมีแต่คนบอกให้เราเก็บเงิน  เพราะคนเก็บเงินเก่งมีน้อยกว่าคนใช้เงิน  แต่ถ้าคุณบังเอิญเป็นคนเก็บเงินเก่ง  และที่ผ่านมาเก็บเงินได้พอสมควรแล้ว  ผมขอให้คุณช่วยใช้เงินหน่อยครับ

        จะรู้ได้อย่างไรว่า  เราเก็บเงินได้พอสมควรแล้วหรือยัง  มีสูตรง่ายๆในการประเมินดังนี้

        เงินเก็บที่ควรมี  ณ ปัจจุบัน = รายได้ทั้งปี X 10% X อายุ  

        เช่น  ตอนนี้คุณอายุ  40  ปี  มีเงินเดือนๆละ  25,000  บาท  ดังนั้น  คุณควรมีเงินเก็บเท่ากับ   25,000 X 12 X 10% X 40 = 1,200,000  บาท

        เงินเก็บในที่นี้  หมายถึง  สินทรัพย์ที่สามารถแปลงสภาพเป็นเงินสดได้  เมื่อจำเป็นต้องใช้  และไม่ควรด้อยค่าลงเมื่อกาลเวลาผ่านไป  เช่น เงินสด , เงินฝากธนาคาร  สลากออมสิน , หุ้น , หุ้นกู้ , พันธบัตร , หน่วยลงทุน , ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ,กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ , บ้าน , ที่ดิน และเพชรทอง
        ไม่นับรวมสิ่งอำนวยความสะดวก  เช่น  โทรทัศน์  ,  ตู้เย็น , คอมพิวเตอร์ , โทรศัพท์มือถือ  หรือรถยนต์  เพราะสิ่งเหล่านี้มีอายุการใช้งานจำกัด  ไม่สามารถฝากผีฝากไข้ได้

         สินทรัพย์ที่เก็บออมนี้  ต้องคิดราคาตลาดหรือราคาสุทธิที่หักหนี้สินออกแล้วเท่านั้น  เช่น  ซื้อที่ดินไว้ที่ราคา  300,000  บาท  ปัจจุบันถ้าคิดจะขาย  จะขายได้ทันทีที่ราคา  500,000  บาท  แต่ยังติดจำนองธนาคารอยู่  100,000  บาท  ดังนั้นสินทรัพย์รายการนี้  จะมีมูลค่าเท่ากับ  500,000 - 100,000 = 400,000  บาท 

        แต่ถ้าเป็นหุ้นในพอร์ตการลงทุนของเรา  ก็ให้ใช้มูลค่าตามราคาปิดล่าสุด  ถ้าเป็นกองทุนรวม  ให้ใช้มูลค่าสุทธิของกองทุน  ที่เรานิยมเรียกกันติดปากว่า “NAV.”
        ในกรณีของกรมธรรม์ประกันชีวิต  ให้ใช้มูลค่าเงินสดตามตารางในกรมธรรม์  ที่จะมีตัวเลขแสดงค่าว่า ปัจจุบัน  เงินสะสมสุทธิของเราในกรมธรรม์เป็นเท่าไรแล้ว  อาจจะมากกว่าที่เราจ่ายเบี้ยประกันไปหรือน้อยกว่าก็ได้  ขึ้นกับว่าซื้อกรมธรรม์มากี่ปีแล้ว

        จากนั้นก็นำตัวเลขทั้งหมดมารวมกัน  หากเคาะตัวเลขดูแล้ว  พบว่าเราเก็บเงินได้ตามเป้ามาโดยตลอด  และมีส่วนเกินพอสมควร  แต่ละเดือนมีเงินเก็บออมเหลือไม่น้อยกว่า  20% ของรายได้  ผมขอเรียกร้องให้คุณช่วยใช้เงินเพิ่มในเรื่องต่อไปนี้

       1. ตรวจสุขภาพประจำปี
       คนเราควรตรวจเช็คสุขภาพอย่างน้อยปีละ  1  ครั้ง  โดยเฉพาะเมื่ออายุขึ้นหลักสี่แล้ว   ร่างกายก็เหมือนเครื่องพิมพ์แบงค์  หลังจากประกอบและปรับแต่งเครื่องจนได้ที่แล้วมันจะถูกใช้พิมพ์เงินทุกวัน  ไม่มีหยุด  เรามักเข้าใจกันว่าร่างกายของเราได้รับการพักผ่อนในช่วงเวลากลางคืนทุกวัน  แต่ท่านทราบหรือไม่  มีอวัยวะหลายส่วนที่ทำงานให้เราตลอดชีวิต  ไม่เคยมีเวลาหยุดพักผ่อนเลยแม้แต่นาทีเดียว  อวัยวะที่ว่านี้ได้แก่  สมอง , หัวใจ , ปอด , ตับ  หรือ  ไต

        หากเทียบกับรถยนต์ส่วนตัวของเรา  ใช้วิ่งเพียงวันละ  2 - 3  ชั่วโมง  แล้วได้จอดพักเครื่องทั้งวัน    ทุก 10,000  ก.ม.  หรือไม่เกิน  6  เดือน  เรารีบกุลีกุจอนำรถเข้าอู่  ขณะขับรถอยู่หากมีเสียงกุกกักผิดปกติเกิดขึ้น  เราจะรีบนำรถเข้าอู่ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คอย่างละเอียด  อะไหล่ชิ้นไหนเสื่อมสภาพ  เราจะปรับเปลี่ยนทันที

        แต่ถ้าเป็นสุขภาพของเรา  หากมีอาการเจ็บป่วยผิดปกติขึ้นเรามักเพิกเฉย  ฝืนทำงานต่อไป  ไม่ยอมหยุด  หากไม่ไหวจริงๆ  หลายคนจะแวะซื้อยาจากร้านขายยา  ลองผิดลองถูกไปก่อน  สุดท้ายถ้าไม่ไหวจริงๆจึงยอมไปหาหมอที่โรงพยาบาล  ซึ่งบางครั้งถึงกับต้องหามกันไปเลยทีเดียว   

        ทำไม  เราไม่ปฎิบัติต่อร่างกายของเราเฉกเช่นที่เราปฎิบัติต่อรถยนต์ของเรา   ถามว่าระหว่างรถยนต์กับชีวิตของเรา  อะไรสำคัญกว่ากัน  หากชีวิตยังอยู่  จะสร้างรถยนต์ขึ้นมาอีกกี่คันก็ย่อมได้  แต่ถ้าชีวิตไม่อยู่แล้ว   จะมีรถกี่คันก็ไม่มีความหมาย

        ค่าตรวจสุขภาพไม่ได้แพงมากมายอะไร   มีแบบเพ็จเก็จมีให้เลือกตั้งแต่ราคา  1,000  บาทจนถึง  15,000บาท  ขึ้นกับอายุและความละเอียดของการตรวจเช็ค    อีกทั้งกรมสรรพากรยินยอมให้นำสวัสดิการในการตรวจเช็คสุขภาพของผู้บริหารหรือพนักงานบริษัท  ไปหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทได้ 

        การตรวจสุขภาพประจำปี  คิดอย่างไรก็คุ้ม  ไม่เพียงแต่ทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง  ไม่ต้องเสียค่าหยูกยา  หรือพึ่งพาโรงพยาบาลแล้ว  ยังทำให้ร่างกายมีทรวดทรงองค์เอวที่สวยงาม  ไม่ต้องไปเสียเงินผ่าตัดศัลยกรรมหรือลดความอ้วน  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าหลายเท่า
        ตรวจเช็คร่างกายให้ละเอียดเถอะครับ  ตรวจทุกปี  ค่าใช้จ่ายไม่มากไปกว่าค่าตรวจเช็ครถยนต์ตามระยะของคุณหรอก  ร่างกายนี้คุณยังต้องอาศัยมันทำงานไปอีกนานแสนนาน

        2. ออกกำลังกาย
        หากเราต้องการให้สุขภาพของเราแข็งแรง  เราควรออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ  2  ครั้ง  และในแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง  ปัญหามักจะอยู่ที่ว่าจะไปออกกำลังที่ไหนดี   คนต่างจังหวัดอาจไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้  เพียงขี่จักรยานหรือจักรยานยนต์ออกไป 10 นาทีก็ถึงสนามออกกำลังกายแล้ว  แต่สำหรับคนกรุงเทพ  การหาสถานที่สาธารณะเพื่อออกกำลังกายเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร  ตั้งแต่การเดินทาง , ที่จอดรถ , สถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้า  หรือ  แม้แต่การรอคิวใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ

        ถ้าคุณประสบปัญหาเช่นนั้นจริงๆ  และคุณเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายมากพอ  คุณก็ควรลงทุนในเรื่องนี้  ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกสถานออกกำลังกายเอกชน หรือ  สปอร์ตคลับ  เพื่อสามารถออกกำลังกายได้อย่างเป็นกิจจะลักษณะ   

       ส่วนใครที่คิดว่าค่าใช้จ่ายสูงเกินไป  หรืออาจไม่คุ้มค่า   เพราะไม่ได้ไปใช้บริการทุกวัน    เราควรยอมเสียสตางค์เพื่อไปใช้สนามกีฬาเอกชนเป็นครั้งๆไป  เช่น  ไปว่ายน้ำ  .  ตีเทนนิส  หรือ  ตีกอล์ฟ   พยายามจัดเวลาไปให้ได้อาทิตย์ละ  2  ครั้ง  อย่าลืม  ถือโอกาสไปหาเพื่อนใหม่ที่นั่นด้วย  ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้ไอเดียเรื่องใหม่ๆ  อย่างคิดไม่ถึงทีเดียว

       3. พาครอบครัวไปกินไปเที่ยว
       คุณทำงานหนักทุกวันนี้เพื่ออะไร  หากไม่ใช่เพื่อครอบครัว  จริงอยู่คนเราควรรู้จักเก็บออมไว้บ้าง  แต่ถ้าคุณเก็บออมได้ตามเป้าหมายมาโดยตลอด  ควรกันเงินส่วนหนึ่งมาให้รางวัลชีวิตกับตนเองและครอบครัวบ้าง  พาภรรยาและลูกๆไปทานข้าวนอกบ้านเลือกร้านอาหารอร่อยๆบรรยากาศดีๆ  อย่างน้อยเดือนละ  1  ครั้ง

        ทุกปี  ควรพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนนอกสถานที่อย่างน้อยปีละ  2  ครั้ง  จะไปนอนพักหรือไม่  แล้วแต่กำลังทรัพย์ของแต่ละคน  แต่ควรมีโอกาสไปตากอากาศพักผ่อนและให้เวลากับครอบครัวบ้าง  คำว่าครอบครัว  นอกจากจะหมายถึงคู่สมรสและลูกๆแล้ว  บุคคลที่เราไม่ควรจะมองข้ามไป  คือ  พ่อแม่และญาติผู้ใหญ่  ผู้มีพระคุณของเรา  นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้ไปเยี่ยมท่าน  ไม่ได้พาท่านไปทานอาหารดีๆในร้านอาหารที่ท่านชอบ

        เวลาคุณทำงาน  คุณให้เวลากับลูกค้า  ให้เวลากับผู้ร่วมงาน  ให้เวลากับธุรกิจ  อย่าลืมแบ่งเวลาให้กับคนที่รักและหวังดีต่อเราที่สุดด้วย  อาจพาไปทานข้าว  ไปเที่ยวพร้อมกับครอบครัวของเรา  แล้วอย่าลืมสังเกตว่าท่านสุขใจและชื่นชมคุณขนาดไหน  เมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า

       4. พัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง
       ชีวิตของเราประกอบด้วยร่างกายและจิตใจ  ร่างกายได้รับการเอาใจใส่แล้ว  อย่าลืมประคองดูแลจิตใจของเราด้วย  การได้มีโอกาสเข้าอบรมหลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพ  ,  การพูดต่อหน้าที่ชุมชน  หรือ  การเข้าร่วมกิจกรรม   ชมรม  สโมสรเพื่อสังคม  ย่อมสร้างความมั่นใจ  ความภูมิใจและความสุขใจให้กับชีวิต  สามารถมีพลังใจไปต่อสู้กับอุปสรรคในการทำงานได้อย่างสบาย  เลือกหลักสูตรหรือสโมสรที่เหมาะกับเรา  ค่าใช้จ่ายที่เรารับได้

        แต่ถ้าใครมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย  การใช้วิธีดั้งเดิมของไทยเรา  ด้วยการไปเข้าร่วมอบรมการนั่งสมาธิ  วิปัสสนา  การเดินจงกรมแบบชาวพุทธ  ก็เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการสร้างพลังใจ  อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้มากมายอะไร  เพียงแต่ต้องรู้จักเสาะแสวงหาว่า   ที่ไหนมีอบรมเรื่องดังกล่าวฟรี  หรือเสียค่าใช้จ่ายแต่น้อยบ้าง

        5. บริจาค  ทำบุญการกุศล
        คนที่รู้จักให้  ต้องเป็นคนที่เชื่อว่าตนเองมีมากพอ  หรืออย่างน้อยก็รู้สึกว่าตนเองมีมากกว่าคนอื่น  จึงเต็มใจแบ่งปันให้  มันไม่สำคัญว่าคุณจะมีเท่าไร  เพราะหากคุณมีเงิน 100 ล้านแต่คิดว่ายังมีไม่พอ  ไม่สามารถแบ่งปันให้ใครได้  ชีวิตคุณก็จะตกอยู่ในห้วงทุกข์  ต้องดิ้นรนแสวงหาเพิ่มไม่รู้สิ้นสุด

        การแบ่งปัน  ไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยเหลือคนที่ลำบากยากจนกว่าเรา  แต่ยังมีส่วนอย่างมากที่ทำให้เรามีความสุขจากการให้  เราจะรู้สึกปีติสุขทุกครั้งที่เราระลึกว่า  ส่วนที่เราให้ไปนั้นมีส่วนช่วยเหลือผู้อื่นอย่างไร  สิ่งนี้จะนำมาซึ่งความเชื่อมั่น  และความเคารพตนเองว่าเราเป็นส่วนหนึ่งที่ยังมีค่าในสังคม  และความมั่นใจนี่แหละจะส่งผลให้เราเติบโต  ก้าวหน้าในธุรกิจการงานของเรา

        การบริจาค  การทำบุญ  อาจทำได้หลายรูปแบบ  แต่ผมเองมักเลือกวิถีทางช่วยเหลือผู้ต่ำต้อยยากไร้มากกว่าการสร้างถาวรวัตถุ  และต้องเลือกแนวทางที่ทำให้เขาหลุดพ้นจากความทุกข์ยากและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว  เช่น  ให้ทุนการศึกษาระยะยาว  ,  ให้ทุนตั้งศูนย์ฝึกอาชีพ  ,  สมทบทุนสร้างอาคารเรียนในชนบท  หรือ  สมทบทุนพิมพ์หนังสือธรรมะเพื่อแจกจ่ายประชาชน  

        พวกเราคงเคยได้ยินที่เขาสอนกันว่า   อย่าให้ปลากับเขา  แต่จงสอนวิธีจับปลาให้เขา  แล้วเขาจะมีปลากินไปตลอดชีวิต  แต่ในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันสูง  ผมคิดว่าถ้าเราพอจะจัดหาอุปกรณ์จับปลาให้เขาบ้าง  จะช่วยให้เขามีกำลังใจสู้มากขึ้น
        อย่างไรก็ตาม  การบริจาคแนวทางอื่น  หรือแม้แต่การไปลงมือ  ลงแรงช่วยเหลืองานการกุศล  ล้วนแต่นำมาซึ่งบุญกุศลแก่ผู้ให้ทั้งสิ้น

        อนึ่ง  การทำบุญโดยการบริจาคให้ทาน  นอกจากทำให้จิตใจชุ่มชื่นแล้ว  เรายังได้รับอานิสงส์ทันที โดยสามารถนำยอดเงินบริจาคนี้ไปหักลดหย่อนภาษีได้เต็ม   แต่ไม่เกิน 10 %ของรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว  เงินบริจาคนี้  จะบริจาคให้องค์กรการกุศลที่กระทรวงการคลังประกาศรับรอง  วัดและโบสถ์ของทุกศาสนา  หรือสถานศึกษาและสถานพยาบาลของรัฐทุกแห่งก็ได้
 
        หัวข้อที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนั้น  บางท่านได้ทำอยู่แล้ว  ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี  แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้ทำ  น่าจะต้องกำหนดจุดตั้งต้น  เรื่องเงินคงไม่ใช่ปัญหาหลัก  เพราะเราสามารถเลือกระดับค่าใช้จ่ายให้เหมาะกับฐานะของเราได้  สิ่งที่จะเป็นปัญหาใหญ่คือ  จะผลักดันตัวเองให้เริ่มต้นได้อย่างไร

        ถามตนเองว่า  เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดีที่เราตั้งใจจะทำจริงๆหรือเปล่า  ถ้าใช่  กำหนดวันที่แน่นอน  แล้วลงมือกระทำเลย  เช่นสิ้นเดือนนี้ เราจะไปตรวจสุขภาพประจำปี  ลองหาข้อมูลจากโรงพยาบาลที่น่าสนใจสัก  2  แห่ง  เปรียบเทียบราคา  ,  การบริการ  และเพคเก็จที่เหมาะสม  แล้วโทรศัพท์นัดเวลาทันที

        ถ้าเราทำได้อย่างนี้  เราจะพบว่าทุกสิ่งจะลุล่วงไปด้วยดี  ชีวิตที่เคยดำรงอยู่เพื่อเงินเงิน  เงิน  หรือ  งาน  งาน  งาน อย่างเดียว   จะค่อยๆอ่อนละมุนลง  ด้วยความรัก  ,  ความอาทร  ,  ความภาคภูมิใจ  และความมั่นใจ  ในที่สุดจะหลอมรวมเป็นความนับถือตนเอง    ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

        ท่านที่รัก  ชีวิตคนเราจะมีอะไรดีกว่านี้  มีงานทำ   มีเงินใช้  มีเวลาให้ตนเอง  ให้ครอบครัว  มีสุขภาพกายที่แข็งแรง  สุขภาพจิตที่เข้มแข็ง  และยังมีมากพอ ที่จะแบ่งปันน้ำใจให้คนรอบข้างในสังคมได้  

        แค่คิดก็มีความสุขแล้ว  ทำให้มันเป็นจริงเถอะครับ




บทความน่าสน

Domain names for sale article
ขุมทรัพย์ในกรมธรรม์
ทองคำ ฤาจะหมดมนต์ขลัง
Dollar Carry Trade แผลงฤทธิ์
กรมธรรม์บำนาญ เรื่องใกล้ตัวที่คุณควรรู้ article
ฝรั่งทิ้งหุ้นกว่า 5 หมื่นล้าน ทำไมหุ้นไทยถึงไม่ลง(มาก) article
ทำไม ทองยังคงทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ article
ทำไม หุ้นจึงพุ่ง สวนทางม็อบ article
เฟดขึ้นดอกเบี้ย มั่นใจพ้นจุดต่ำสุด article
5 ศตวรรษของฟองสบู่โลก
บริจาคอย่างไร หักภาษีได้ 2 เท่า
ทำไม ราคาทองคำจึงพุ่งไม่หยุด
MACD สาเหตุที่แท้จริงในตลาดหุ้น
เงินรองรัง เท่าไรถึงพอ
นักลงทุนทิ้งเงินดอลลาร์ มุ่งลงทุนสินทรัพย์อื่น
เงินที่หล่นหาย
สมาคมตัวแทนเตรียมจัดงานสัมมนาระดับโลก
5 คำแนะนำในการซื้อบ้านที่ถูกยึด
พันธบัตร 10 ปีของสหรัฐ พุ่งแตะ 3.71%
วิกฤตการเงินระลอกสอง article
AIG ถึงคราวต้องล้ม ?
เงินสิบบาท
ช่วยด้วย ฉันซื้อประกันไว้กับ AIG
เตือนรัฐรับวิกฤติผู้สูงอายุ
ข่าวดีและข่าวร้ายจากเฟด
CDS ดินระเบิดวิกฤติปี 2008 article
สัญญาเพิ่มเติมในประกันชีวิต หักภาษีไม่ได้แล้ว
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฟองสบู่อเมริกาแตก
มาวางแผนเกษียณอายุกันเถอะ article
วิธีเป็นเศรษฐีเงินล้าน article
หลักทรัพย์ที่ควรร้จัก
สปส.ปรับเพิ่มเงินบำนาญชราภาพ article
AIG มาถึงวันนี้ได้อย่างไร



Copyright © 2010 All Rights Reserved.