ReadyPlanet.com
dot dot
dot
วางแผนการเงิน
dot
bulletทำไมต้องวางแผนการเงิน
dot
วางแผนเกษียณอายุ
dot
bulletวางแผนเกษียณอย่างง่าย
dot
วางแผนภาษีอากร
dot
bulletทำไมต้องวางแผนภาษี
bulletเทคนิควางแผนภาษีส่วนบุคคล
bulletเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี
bulletค่าใช้จ่ายของแต่ละอาชีพ
bulletสิทธิหักลดหย่อนภาษี
bulletวิธีคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา
dot
วางแผนการลงทุน
dot
bulletข้อคิดก่อนลงทุน
bulletการจัดพอร์ตลงทุน
dot
วางแผนการประกัน
dot
bulletหลักพื้นฐานการประกันภัย
bulletประกันชีวิตเท่าไรถึงพอ
dot
Newsletter

dot




ทำไมต้องวางแผนการเงิน

          การวางแผนการเงิน ( Financial Planning )  หมายถึง  กระบวนการวางแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินของแต่ละบุคคล    อาจจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า  Personal  Finance  
         

          ทำไมต้องวางแผนการเงิน
         
1.คนอายุยืนขึ้น
           ปัจจุบันคนไทยมีอายุเฉลี่ย  71 ปี  แต่ถ้าเราเก็บสถิติเฉพาะคนไทยที่อายุ  60  ปีขึ้นไป  จะพบว่าท่านเหล่านั้นจะอยู่ได้อีกประมาณ  20  ปี  (  ข้อมูลจากสถาบันประชากรและสังคม ม.มหิดล  )   ดังนั้น  จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่า  ช่วงเวลาหลังเกษียณที่ต้องอยู่อีกตั้ง 20 ปี  เราจะอยู่กันอย่างไร  ถ้าไม่มีการวางแผนการเงินที่ดีพอ
         
2.โครงสร้างสังคมเปลี่ยนไป
          เดิมคนไทยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่    ปัจจุบันแยกย้ายกันอยู่  เป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น การคาดหวังให้ลูกหลานเลี้ยงดู  เป็นเรื่องที่หวังได้น้อยลง  เราจึงต้องเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ
         
3.ค่าครองชีพในอนาคตจะสูงขึ้นมาก
          ข้าวของในท้องตลาดมีราคาสูงขึ้นทุกวัน  อีก  20-30  ปีข้างหน้าในวันที่เราเกษียณ  สินค้าที่จำเป็นอาจแพงขึ้นอีก  1-2  เท่าตัว  โดยเฉพาะค่ารักษาพยาบาล  ที่มักมีอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายมากกว่าเงินเฟ้อเสมอ  ดังนั้นงบประมาณที่เราเตรียมไว้อาจไม่เพียงพอ  ถ้าไม่ได้คำนวนเผื่อค่าเงินเฟ้อไว้ด้วย
         
4.สวัสดิการของรัฐไม่เพียงพอแน่
          ในอีก  15  ปีข้างหน้า  สัดส่วนของประชากรที่มีอายุ  60  ปีขึ้นไปจะเพิ่มเป็น  20%   นั่นหมายความว่า 1 ใน 5 ของคนไทยจะเป็นคนสูงอายุ  ขณะที่สัดส่วนของคนวัยทำงานต่อคนสูงอายุจะลดลงจาก  6:1  ในปัจจุบันเป็น  3:1  ในปี  2021  ทำให้ภาษีที่รัฐเก็บได้จะไม่เพียงพอต่อการจัดหาสวัสดิการให้คนสูงอายุ  หรือหากทำได้ก็เป็นแบบพื้นๆเท่านั้น
         
5.ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมีความซับซ้อนมากขึ้น
          สมัยก่อนการฝากเงินในธนาคารให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจและมีความมั่นคงสูง  เดี๋ยวนี้ดอกเบี้ยเงินฝากลดน้อยลงมาก  ขณะที่ช่องทางการลงทุนใหม่ๆมีให้เลือกหลากหลายมากขึ้น  แต่ก็มีรูปแบบและความเสี่ยงแตกต่างกันออกไป  การทำความเข้าใจและรู้จักวางแผนการลงทุนให้ถูกต้องเหมาะสมกับแต่ละบุคคล  จะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
         
6.ทำให้เราสามารถเกษียณอายุได้เร็วขึ้น
          หากมีการวางแผนที่ดีและเริ่มต้นเร็ว  ย่อมบรรลุเป้าหมายได้เร็วกว่า  ไม่ว่าจะเป็นเงินออมที่เก็บได้มากขึ้น  ดอกเบี้ยทบต้นที่สูงขึ้น  หรือการสามารถหาประโยชน์จากโอกาสดีๆที่บังเอิญผ่านเข้ามา  เพราะเรามีเงินออม  เงินก้อนที่เก็บเอาไว้  เช่น  ซื้อที่ดินทำเลสวยจากคนที่ร้อนเงิน  หรือ  ซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาตกลงมามากเกินควร
          7.ช่วยรองรับความเสี่ยงของชีวิตได้มากขึ้น
          ชีวิตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน  เราอาจโชคร้าย  เจ็บป่วย  หรือ  เกิดอุบัติเหตุหนักๆขึ้นได้   แต่ถ้าเรามีการวางแผนการประกันภัยไว้  ย่อมสามารถบรรเทาภาระต่างๆลงได้  หรือ  เราเกิดตกงานกระทันหัน  มีคนในครอบครัวป่วย  การมีเงินเก็บสำรองไว้  ย่อมหลีกเลี่ยงความยุ่งยากจากการต้องไปกู้หนี้ยืมสินเงินกู้นอกระบบลงได้
 

        ขั้นตอนในการวางแผนการเงิน
          1.กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทางการเงิน
          ในการวางแผนการเงิน  ควรจะเริ่มจากการมีเป้าหมายคร่าวๆว่า  เราอยากบรรลุเป้าหมายทางการเงินในเรื่องอะไร  และต้องใช้เวลาเท่าไร  เช่น
          - อยากเกษียณการทำงานตอนอายุเท่าไร  ตอนนั้นอยากมีเงินใช้เดือนละเท่าไร
          - อยากเตรียมทุนการศึกษาให้ลูกเรียนถึงระดับไหน  ค่าใช้จ่ายเท่าไร  
         - หรืออยากวางแผนจัดสรรมรดกให้ลูกหลาน  ต้องทำอย่างไร
เป้าหมายที่กำหนดขึ้น  อาจเป็นเป้าหมายเดี่ยว  หรือ  เป้าหมายผสมผสานเต็มรูปแบบก็ได้

       
  
2.รวบรวมข้อมูล
           เป็นการรวบรวมข้อมูลทางการเงิน  ทั้งของตนเอง  ครอบครัว  และภาวะรอบล้อมทางเศรษฐกิจ  เพื่อเป็นฐานในการวิเคราะห์  เช่น  รายรับ  , รายจ่าย  , ทรัพย์สิน  , หนี้สิน  , ภาระผูกพัน  , ดอกเบี้ย  หรือทิศทางการลงทุนในปัจจุบันและในอนาคต
         
3.วิเคราะห์และประเมินสถานะทางการเงิน
          นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์  เพื่อหาสถานะทางการเงินปัจจุบัน ว่าตอนนี้มีเงินเก็บสุทธิเท่าไรแล้ว  ยังขาดอีกเท่าไรเพื่อที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้  และมีทางเลือกอะไรบ้างที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น
         
4.จัดทำแผนการเงิน
          หลังจากวิเคราะห์เงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆแล้ว  ให้ประเมินทางเลือกที่ดีที่สุด  แล้วเขียนแผนการเงินที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา  ภายใต้สมมติฐานและข้อมูลที่รวบรวมไว้
          5.นำแผนไปปฎิบัต
          เป็นการปฎิบัติตามแผนที่ได้เขียนไว้  ว่าต้องลงมือทำอะไรบ้างในกรอบเวลาเท่าไร  เช่น  ต้องออมให้ได้เดือนละเท่าไร  ต้องนำเงินไปลงทุนอะไรบ้าง  หรือ  ต้องทำประกันภัยเพิ่มในเรื่องอะไรบ้าง  โดยต้องมีการตรวจทานด้วยว่า  ได้ทำครบพอที่จะบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
         
6.ติดตามและกำกับให้เป็นไปตามแผน
          
หลังจากปฎิบัติไปได้ระยะหนึ่ง  ต้องหมั่นตรวจสอบและประเมินผลที่เกิดขึ้นว่า  ได้ผลตามที่คาดหวังหรือไม่  สมมติฐานที่วางไว้มีการเปลี่ยนไปหรือไม่  อย่างไร และควรจะมีการปรับเปลี่ยนแผนให้สอดคล้องกับภาวะการณ์ที่เปลี่ยนไปหรือไม่  ซึ่งโดยทั่วไปเราจะมีการทบทวนแผนการเงินปีละ  1 ครั้ง







Copyright © 2010 All Rights Reserved.